เคราะห์ภัยจากกรรม

พระอาจารย์จี้กง :

เคราะห์ภัยความทุกข์ร้อน คือเก่าก่อนกรรมน้อยใหญ่ ดั่งยืมของลืมคืนไปคืนหมดแล้วก็สบาย ทั้งไม่ให้เอาเปรียบคน
เคราะห์อาจเกิดจากตน สะเพร่าจนต้องยืนมีอยู่ เมื่อความพลั้งมาเป็นครู ถึงล่วงแล้วให้เหลียวดู เหมือนเคราะห์รู้พลอยสิ้นไป
แค้นกู้คืนมิซา ภาพธรรมดา คนทุกข์ยามพ่าย ปล่อยวางโล่งใจ เมื่อจะแก้ไขมิพ้อโชคชะตา เคราะห์ร้ายลงร้อน โทษสุดคณา จิตดังแสง เย็นมันคงพร้อมฝ่า ย่อมคลายร้ายกลับดี

ชื่อเพลง เคราะห์ร้ายกลายดี
ใช้ทำนอง เพลงพบรัก

ทุกๆ คนมีเคราะห์ภัยซึ่งเกิดจากกรรม กรรมคือการกระทำ ถ้าทำดีก็เป็นคนที่มีเคราะห์ดี ทำไม่ดีก็เป็นคนที่เคราะห์ร้าย ศิษย์อยากเคราะห์ร้าย หรือเคราะห์ดี แล้วเราส่งเคราะห์หรือเคราะห์ดีให้ผู้อื่นเราต้องขยันส่งเคราะห์ดีไปให้ผู้อื่นถึงจะได้รับผลดีตอบ ถ้าเราเปิดไฟให้คนอื่นเราก็สว่าง ถ้าเราไม่เปิดไฟให้คนอื่นเพราะเราตระหนี่ถี่เหนียวก็ไม่มีใครได้รับความสว่าง เมื่อเราช่วยเหลือผู้อื่น ผู้อื่นก็จะช่วยเราเป็นการไม่เอาเปรียบกัน เวลาช่วยผู้อื่นแล้วจำเป็นต้องได้รับผลดีตอบมาไหม (ไม่จำเป็น) ถ้าเราช่วยเขา แต่เขาให้ร้ายเรา เราต้องรูกวางเฉยเพราะว่าที่เราให้ไปเราไม่ต้องการผลตอบแทน หากเราไม่ได้ผลตอบแทนแล้วเสียใจ แสดงว่าเราหวัง ฉะนั้น จึงไม่ควรที่จะหวังอะไรเลยความหวังนั้นมีไว้สำหรับหวังกับตัวเองเท่านั้นไม่สามารถหวังกับผู้อื่นได้บางคนวาดหวังไว้สวยงาม แต่ไปวาดให้กับคนอื่น พอเขาไม่ทำเราก็รู้สึกเสียใจ แล้วก็ต่อว่า และเปลี่ยนความวาดหวังอันนี้ให้กลายเป็นความแค้นแค้นก็ต้องชำระ ถ้ามัวแต่ชำระ ก็จะเป็นเส้นที่ก่อนว่า “แค้นกู้คืนมิซา”เมื่อเราแค้นเราก็ต้องกู้คืนไม่ซา ใปหรือไม่
การที่ศิษย์ได้รับเคราะห์ภัย อย่าหนี เพราะยิ่งวิ่งหนีเคราะห์ก็ยิ่งวิ่งตาม หันหน้าไปสู้กับความจริง ยอมรับเคราะห์กรรมนั้นเข้ามาสู่ตนหมดแล้วจะได้หมดกันดีหรือไม่ ศิษย์ไปตีเขาไว้ไม่ให้เขามาตีคืนได้หรือร่างกายเราแก่เฒ่าชราแล้วจะห้ามไม่ให้ป่วยไข้ได้หรือ มีแต่สิ่งเดียวที่มีค่าที่สุด คือก่อนที่เราจะเสียชีวิต ทำทุกเวลาทุกนาทีให้มีคุณค่า หนึ่งวันที่เราสั่งสมความดีทำสิ่งที่มีประโยชน์ ก็คือหนึ่งวันที่มีค่า สองวันที่เราสร้างความดีทำสิ่งที่มีประโยชน์ ชีวิตเราก็มีค่า หากว่าทุกวันไม่สร้างคุณงามความดีใดๆเลยปล่อยชีวิตผ่านไปวันๆถึงแม้มีอายุอยู่ร้อยปีก็เป็นร้อยปีที่ไม่มีค่าใช่หรือไม่
เคราะห์ภัย ความทุกข์ยากต่างๆ ได้ทวีสูงขึ้น การทดสอบต่างๆนานา วิ่งเข้าใส่ผู้บำเพ็ญแล้ว แต่อย่าเข้าใจผิด บางสิ่งเป็นเคราะห์กรรมส่วนตัว อย่าเหมาว่าเป็นการทดสอบเสียหมด หากว่าศิษย์เป็นคนจริง ศิษย์จะได้มีโอกาสเป็นพุทธะในวันข้างหน้า อย่าขอให้เคราะห์ร้ายเบา ยิ่งหนัก ยิ่งทวี ยิ่งทดสอบคนเท่าไร ศิษย์จะเหลือกิเลสน้อยลงผู้เคราะห์ร้ายที่เข้ามาจะทำให้เรากลายเป็นพุทธะได้เร็วขึ้น ถ้าศิษย์ทำได้เป็นพุทธะเดินดินเหมือนอาจารย์ก็ดี มีชีวิตอยู่ แต่อยู่อย่างพุทธะ หากว่ายังใช่อายตนะ ตา หู ปาก มาก ก็ไปพยายามบำเพ็ญหน่อยนะ

Leave a Reply