แปดเซียนท่านหลันไฉ่เหอ :
เมื่อเราดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ มีใครบ้างที่มีความอยากแล้วไม่กลายเป็นความโลภ มีความไม่พอใจแล้วจะไม่กลายเป็นความโกรธเพราะมนุษย์เมื่อเกิดความอยากขึ้นมาก็อดไม่ได้ที่จะต้องอยากได้มากกว่าเดิม ให้ได้มากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ จนทำให้เราเกิดความเห็นแก่ตนเป็นกิเลสมาเกาะกุมจิตใจ เมื่อเราขัดเคืองใจไม่สมใจ มีใครบ้างที่จะไม่โกรธ และมีใครบ้างที่เวลาเข้าใจเรื่องราวใดเรื่องราวหนึ่งแล้วจะไม่หลงตัวเองว่า เป็นผู้รู้ คงหาได้ยากใช่ไหม
มนุษย์มักจะเคยชินกับการปล่อยตัวเป็นอิสระปล่อยตัวเองไปตามเสรี พอปล่อยตัวเองตามอิสระเสรีของความอยากเราก็รู้จักความโลภพอปล่อยตัวเองไปขับความไม่พึงพอใจ เราก็ได้รู้จักความโกรธ พอปล่อยตัวเองไปกับความเข้าใจก็อดไม่ได้ที่จะหลงตน เกิดมิจฉาทิฐิขึ้นในตัวเรา ทำให้มีกิเลสเกาะกุมใจ แต่ถ้าเมื่อไรเราสามารถเกิดความคิดที่ถูกต้องควบคุมตนเองได้ถูกทาง จากมิจฉาทิฐิก็จะกลายเป็นสัมมาทิฐิ เมื่อมีความอยากก็จะหยุดตัวเองไม่ให้มีความโลภ เมื่อมีความไม่พอใจก็จะหยุดตัวเองเสียก่อนที่จะกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ ขี้โมโหเมื่อมีความเข้าใจก็จะอ่อนน้อมถ่อมตนเอง ไม่ทำให้ตนเองกลายเป็นคนหลงหรือยึดมั่นในความรู้ของตน เมื่อใดที่เรามีความคิดที่ถูกต้องนำพาชีวิตได้ เราก็จะเกิดความปีติยินดีมีความสุขในการดำเนินชีวิต มีชีวิตที่ปราศจากกิเลส เครื่องรั้งจิตใจให้เกิดทุกข์ได้ แต่เราจะทำอย่างไรจึงจะสามารถยับยั้งตนเองได้ เพราะจะทำให้ทุกท่านไม่มีความอยากเลย ก็เป็นไปไม่ได้ จะไม่ให้มีเรื่องขัดใจเลยก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก ให้เป็นคนไม่เรียนรู้อะไรไม่เข้าใจอะไรเลย ดำเนินชีวิตอย่างธรรมชาติ ก็คงไม่ยอม เพราะไม่อยากเป็นคนโง่ที่ไม่รู้อะไร แล้วเราจะทำอย่างไรจึงจะดำเนินชีวิตให้มีสามอย่างนี้ แต่เป็นสัมมาทิฐิที่ดีงามและถูกต้องถ้าเราดำเนินถูกทางชีวิตย่อมราบรื่น ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรู แต่ตอนนี้ชีวิตของทุกคนเป็นอย่างไร ไม่รู้วันไหนจะพบศัตรู ไม่รู้วันไหนจะมีอุปสรรค ไม่รู้วันไหนจะเจอเภทภัยเข้ามาหาตัว
วันนี้เราดำเนินชีวิตมาได้อย่างปลอดภัย มาถึงที่หมายโดยไม่มีอันตรายใดๆดังนั้นต้องมีวิถีทางในการดำเนินชีวิตนั่นก็คือ ไม่ประมาทต่อเหตุการณ์ต่างๆที่จะเข้ามาในชีวิตดำเนินชีวิตอย่างมี สติ สมาธิ และปัญญา บางคนมักจะคิดว่า สมาธิ คือการนั่งหลับตาอย่างเดียว แต่การฝึกสมาธิที่แท้จริงคือมีสมาธิขณะยังลืมตา นั่นจึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ฝึกสมาธิจริงๆ
หลักในการดำเนินชีวิตของท่านคืออะไรบ่อยครั้งที่เราใช้อยู่เสมอแต่เราไม่รู้ว่าสิ่งนั้นรวมกันแล้วเรียกว่าอะไร การตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท การรู้จักระมัดระวัง การรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่อยากจนเกินไป ไม่โลภจนเกินไป การรู้อะไรดีอะไรชอบ การรู้จักไม่เอาสิ่งของของผู้อื่น สิ่งเหล่านี้หากเรารวมเรียกว่า ธรรม เราก็มีธรรมในการดำเนินชีวิตเราใช้ธรรมในการช่วยนำพาชีวิตแต่มนุษย์เรามักจะลืมไปว่านั่นคือ ธรรม และมักจะลืมไปว่าชีวิตเราขาดธรรมะไม่ได้ จนกระทั่งเราขาดจริงๆ แล้วเราถึงจะรู้ดีกว่า อดีตเราไม่ควรขาด คุณธรรม สังคมหรือครอบครัวถ้าขาดคุณธรรมข้อใดข้อหนึ่งอาจจะพบความวุ่นวายอาจจะพบความไม่สงบสุขก็เป็นได้
การดำเนินชีวิตด้วยความถูกต้องมากกว่าอารมณ์ มากกว่าความอยาก ย่อมเป็นการดำเนินชีวิตที่ดีงาม แม้เราจะรู้กันอยู่แต่เราก็มักจะหลอกตัวเอง บ่อยครั้งที่เรามักจะใช้อารมณ์เหนือคุณธรรม เหนือความถูกต้อง ฉะนั้น ต้องรู้จักควบคุมตามไปด้วย แล้วรู้จักโทษของการไม่ควบคุมตนด้วย การรู้จักโทษ จะทำให้เราไม่กล้าที่จะปล่อยตัวเองตามอารมณ์ ตามความอยากหรือตามจิตใจที่ผิดๆ