ท่านอว๋าอวาเซียนหนวี่ :
สิ่งที่น่ากลัวในโลกล้วนมีในตัวมนุษย์ มีสามอย่างเท่านั้นคือ โลภโกรธ หลง เพราะเวลาที่อารมณ์โลภเข้ามา ความอยากเข้ามา อารมณ์ก็ผูกมัดให้เรายึดติด ทำให้เกิดกิเลสในใจ ถ้าเรามีความโลภเราจะดับความโลภด้วยอะไร ทำไมเรายังอยากอยู่เรื่อยๆ เราคิดว่าถ้าเรามีเงินก้อนแค่นี้แล้วเราจะพอ แต่พอไปถึงเราก็ไม่พอ เพราะฉะนั้น จะเอาอะไรดับดีล่ะ (เอาธรรมะข้อให้ทานดับ) ตามหลักพุทธศาสนา พระพุทธองค์ก็ทรงสอนไว้ใช่หรือไม่ทุกท่านก็มีศาสนา แต่ทุกๆ วันท่านไม่มีธรรมอยู่ในใจ เราลืมเอาธรรมมาใช้ในชีวิต ในวันนี้ที่เรามาศึกษาไม่ใช่ศาสนาใหม่ แต่คือการฟื้นฟูธรรมในจิตใจของเรา ให้เราเป็นผู้นับถือศาสนาและมีธรรมอย่างแท้จริง
ความโลภสามารถดับได้ด้วย ศีล เช่น เรามีภรรยาหนึ่งคน โลภเห็นคนอื่นสวย เห็นเป็นภรรยาคนที่สอง เวลาคุยกับคนอื่นก็ว่าภรรยาเราสู้ไม่ได้เลย ศีลจะช่วยดับความโลภทุกๆ อย่าง แม้กระทั่งการประพฤติผิดหรือเข่นฆ่าเพื่อให้ได้มา
ความโกรธดับด้วย สติพอเวลาโกรธก็หายใจเข้า หายใจออก บางทีก็ดับไม่ลง ต้องเรียกสติเข้ามาแล้วคิดให้สูงๆ มองให้ไกลๆ เวลาเรา โกรธ อารมณ์มักจะครอบงำจิตใจเรา ให้ต่ำมองอะไรไม่เห็น แยกอะไร ไม่ออก แต่ถ้าเวลาโกรธแล้วเราใฝ่สูง มองให้สูงคิดให้สูง ยกตัวเองให้สูง เปิดใจให้กว้าง มองออกให้ไกล เราก็จะมองเห็นได้ชัดแยกแยะได้ ชัดเจนว่าใครขาว ใครดำ เราจะไม่ต้องเสียใจกับอดีตว่า ไม่น่าทำเลย
ส่วนความหลงดับด้วย ปัญญา
เปิดใจให้กว้างอีกนิด แล้วจะเห็นอะไรมากกว่าที่ควรจะเห็น อย่าเอาแค่ตาเนื้อมาสัมผัสกัน มองต้องมองให้ถึงจิตใจ อย่ามองแค่เปลือกนอก เวลาโมโหขึ้นมาอะไรเราไม่ฟังเวลาหลงทีชอบทีอะไรเราก็ไม่สนใจแล้วเราถูกความโลภ ความโกรธ ความหลง สอนเรามากี่ที ให้เราเจ็บและผิดหวังเสียใจ เสียเงินไปเพราะโลภ เงินเล็กๆ น้อยๆ โลภเยอะๆโลภเฉพาะหน้า เอาชื่อไปทิ้งหมด เพราะเรามองแต่ประโยชน์ส่วนหน้าไม่มองไกล ไม่มองให้กว้าง ใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้น เราต้องมีสติและยั้งคิดให้ดีๆ