ทุกข์ร้อยแปด

หนึ่งในแปดเซียนท่านหลันไฉ่เหอ :

มนุษย์เราชอบที่จะมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่อยู่กับเราอย่างมั่นคงแน่นอนและไม่เปลี่ยนแปลง แต่ถ้าเรามองให้แจ่มชัด ผ้าหรือพื้นดินหรือแม้กระทั่งฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน ล้วนไม่มีสิ่งใดที่ยืนนานถาวร ต้นไม้ พืชธรรมชาติ ก็เฉกเช่นเดียวกัน ไม่มีสิ่งใดที่ถาวรในโลกนี้ อะไรเป็นสิ่งที่นิรันดรในธรรมชาติ อย่างนั้นให้แง่คิดให้สัจธรรมว่า มนุษย์เราทำไมจึงอยากยื้อยุดหรือจมปลักอยู่ในความคิดใดความคิดหนึ่ง บางครั้งต้องรู้จักแปรเปลี่ยน ต้องรู้จักเปิดใจกว้างๆ ใช่หรือไม่ เราขอยกตัวอย่างเรามีตะกร้าใบนี้เป็นสมบัติของเรา ถึงวันหนึ่งตะกร้านี้หายไป ทำไมเราต้องทุกข์กับมัน เราน่าจะมีอิสระ แต่ก่อนเรามีเราก็ต้องทุกข์กังวลใจตอนนี้เราน่าจะมีอิสระมากขึ้นเพราะว่าห่วงของเราก็หายไปอันหนึ่งแล้วแต่ทำไมเราจึงทำใจไม่ได้ เราจึงอยากให้ตะกร้าใบนี้อยู่กับเราตลอดไปฉันใดก็ฉันนั้น อารมณ์ความรู้สึกของเราก็อยากให้คนนั้นเป็นแบบนั้นเป็นแบบนี้ อยากให้คนนั้นอยู่กับเราไปนานๆ ไม่ไปไหน จิตใจต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นไปได้ไหม ฉะนั้น เมื่อเราเจอสิ่งใดที่ไม่เที่ยงแท้ไม่แน่นอน จงรู้จักทำใจ แล้วทำใจยอมรับให้ได้ มองดูว่า ถ้ายังมีสว่างมีเช้ามีค่ำ น้ำมีขึ้นมีลง นับประสาอะไรกับเงินทองของเรา นับประสาอะไรกับจิตใจของเรา วันนี้ทำไมเรารักเขา แต่อีกวันเราไม่อยากรักแล้วฉะนั้น เราจะมายื้อให้เขารักเราคนเดียวได้หรือไม่ เรามีชีวิตอยู่ จงอยู่กับความจริง อย่ายอมถูกหลอกลวงด้วยความจอมปลอมของมายาของโลกใบนี้ อะไรที่เป็นจริงยอมรับความเป็นจริง เราไม่สวยอย่างนี้แหละเราน่าเกลียดอย่างนี้แหละ ไม่ต้องไปเติมแต่งให้ทุกข์เลย ใครคิดว่าเราไม่สวยก็ช่างปะไรดีกว่ามีความสวยแล้วต้องมานั่งกังวลว่าต้องสวยทุกวันเราไม่สวยก็ไม่เป็นไร ออกจากบ้านก็ออกง่าย แต่พอมีคนชมว่าสวยเวลาจะออกไปจากบ้าน ก็ต้องมองแล้วมองอีกใช่ไหม
มีเงินอยู่ร้อยบาท แต่อยู่ๆ เงินร้อยบาทก็หายไป ก็ทำใจเสียเถอะเบาไปได้ร้อยหนึ่งแล้ว แต่ทำไมเรากลับกลุ้มใจ ทำไมไม่คิดกลับว่าหายไปหนึ่งร้อยก็เบาใจไปหนึ่งร้อยทำไมต้องไปทุกข์กับสิ่งที่หายไปแล้วกังวลกับสิ่งที่มีดีกว่า แล้วรักษาสิ่งที่มีให้ดีที่สุด แล้วเราจะได้ไม่ทุกข์มนุษย์ทุกข์เพราะว่ากังวล อยากได้ในสิ่งที่ไม่มี แม่ปากจัดอย่างนี้ก็ทำใจเสียเถอะนะลูก ลูกไม่รักก็ทำใจเสียเถอะ บางครั้งเราพูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ทุกข์มากไปก็กัดกร่อนใจเปล่าๆ ต้องทำใจให้เป็น แล้วเราจะมีความสุข จะยิ้มได้กับทุกๆ เรื่อง วันนี้เขารักพรุ่งนี้เขาไม่รักก็ยังยิ้มได้ทุกข์ก็หมดไปเปราะหนึ่งแล้ว เราถามหน่อยนะว่ายังมีทุกข์อะไรให้ท่านทุกข์ใจอีก
(ทุกข์เรื่องหน้าที่) แล้วทำอย่างไรถึงจะหมดทุกข์ได้ หนีเลยได้ไหม ถ้าสิ่งใดมีอยู่กับเรา ก็จงทำทั้งนั้นให้ดี แล้วเมื่อนั้นทุกข์จะหนีเราไปเอง
(ทุกข์เพราะความโกรธ) อย่างนี้ถึงจะเรียกว่าทุกข์ใช่ไหม แล้วเราจะดับความโกรธได้อย่างไร วิธีง่ายๆ คือ พยายามเข้าใจเขา พยายามทำตัวให้เหมือนเขา แล้วเราจะโกรธเขาไม่ลง เราจะรู้ว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนี้กับเรา ทำไมเขาถึงปฏิบัติแบบนี้กับเรา แล้วเราจะให้อภัยเขาได้เห็นอกเห็นใจ เขา
(ทุกข์เพราะเจ็บป่วย) มีคำพูดของมนุษย์บนพื้นโลกกล่าวไว้ว่า มนุษย์ป่วยเพราะการกินเข้าทางปากของเราใช่หรือไม่ และการใช้ร่างกายของเราอย่างไม่รู้จักพักผ่อน ทำไมถึงเจ็บคอ เป็นคนพูดมากไหม พูดเก่งไหม อาหารการกินต้องระวังเรื่องเผ็ดเรื่องมัน และต้องรักษาสุขภาพให้ดีๆ กินให้ถูกสุขลักษณะ กินให้ครบห้าหมู่ ไม่กินเผ็ดไม่กินมันมากเกินไป และไม่พูดมากเกินไป
(ทุกข์เพราะอยากเป็นใหญ่ เป็นหัวหน้า) ก็เพราะความอยาก แล้วจะทำอย่างไรให้หายทุกข์รู้ไหม พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ต้องทุกข์ใจ
(ทุกข์เพราะกลัวเจออุปสรรค) ถ้าเรารู้จักควบคุมตัวเองดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องกลัวอุปสรรคข้างหน้าเลย แต่เพราะตอนนี้เรายังไม่รู้ใจเรา เราจึงได้กลัวอุปสรรค พยายามดูตัวเองแล้วรู้จักตัวเองให้มาก จะได้ไม่กลัวอุปสรรค
(ถูกยืมเงินไปแล้วไม่นำมาคืน) ฟังให้ดีๆ อาจเป็นเพราะว่า ชาติก่อนเราไปโกงเขามาได้ถ้าทำใจคิดได้อย่างนี้ก็สบายใจ
(ทุกข์เพราะเป็นหนี้) ทุกข์เพราะหนี้เงินทอง แล้วเราจะแก้อย่างไร คนที่ติดหนี้ (ใช้หนี้) และจงรู้จักประหยัด ใช้เงินให้เป็นแล้วเราจะมีเงินใช้หนี้เขาได้ ที่เราเป็นทุกข์เพราะหนี้ เพราะอะไร เพราะเราใช้เกินตัวรายรับไม่พอรายจ่ายใช่หรือเปล่า เหมือนตอนนี้ถ้ากินเกินตัวก็จะอ้วนกว่านี้ ต่อไปจะทุกข์เพราะหนี้อีกไหม
(ทุกข์เพราะลูกไม่มีงานทำ) เป็นทุกข์ของพ่อแม่ใช่ไหมแล้วทำอย่างไรจึงจะหายทุกข์ (หางานให้ลูก) หากหางานให้ลูกทำ แต่ลูกยังไม่อยากทำเรายังทุกข์ไหม (ทุกข์) ฉะนั้น เราปล่อยวางเสีย ให้กำลังใจเขาดีกว่าลูกไม่มีงานทำไม่เป็นไรลูกยังมีแม่ลูกอยู่กับแม่ได้ให้กำลังใจเขาดีกว่าตอนนี้หากลูกไม่อยากทำงาน ท่านไปหางานให้ก็อาจเป็นการโยนทุกข์ให้เขาก็ได้ ตอนนี้ท่านทุกข์ในเรื่องไม่ควรทุกข์ จงจำไว้ว่าคนทุกคนมีบุญมีกรรมเป็นของตัวเอง พ่อแม่ช่วยเท่าที่ช่วยได้ ถ้าช่วยไม่ได้อย่าไปเกี่ยวให้เกิดทุกข์ บางครั้งลูกทุกข์ เพราะพ่อแม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเขามากเกินไป แล้วเราก็ต้องทุกข์โดยเปล่าประโยชน์ เขาโตแล้วก็ต้องปล่อยไปนะ บางทีพ่อแม่รักลูก ลูกก็ไม่รักพ่อแม่ บางทีลูกรักพ่อแม่พ่อแม่ไม่รักลูก นี่คือทุกข์ของมนุษย์ ทำอย่างไรดี ทำดีให้มากๆ สักวันหนึ่งท่านก็จะรักเราเอง อย่าย่อท้อในการทำดี
(ทุกข์เพราะพ่อแม่ไม่รัก) เราต้องหันมามองตัวเองบ้างว่า ทำไมท่านไม่รักเรา ท่านไม่รักเรา เราก็เลยไม่รักท่าน แล้วอย่างนี้ความรักจะบังเกิดไหม ฉะนั้นแม้ท่านไม่รัก ก็จงพยายามทำดี แล้วรักท่านให้มากๆสักวันหนึ่งท่านจะกลับมารักเรา
(ทุกข์เพราะห่วงพ่อแม่) เป็นเพราะเราไม่ได้อยู่ใกล้ เรากลับไปอยู่ใกล้เป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นเราต้องทำตัวให้ดี ต้องรักษาชื่อ แซ่ของพ่อแม่ให้ดีถึงแม้อยู่ไกลแต่ชื่อ แซ่ท่านยังไม่เหม็น แล้วว่างก็รู้จักโทรไปหาท่านบ้างหรือว่างก็กลับไปหาท่านบ้าง อย่าเอาเวลาไปเที่ยวมากนัก
(ทุกข์เพราะห่วง) เมื่อโยนห่วงทิ้ง ทุกข์ไหม ห่วงคนรอบข้างห่วงทำให้เราทุกข์ ห่วงเท่าที่ห่วงได้ สิ่งที่เกินห่วงอย่าไปห่วงแล้วจะไม่ทุกข์เกินไปทำตัวให้ดีสำคัญก็คือเราเรียกร้องตัวเองให้ดีสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทุกคนทุกข์ก็คือห่วงลูกหลาน กลัวเขาไม่มีกิน กลัวเขาอยู่ไม่ได้ กลัวเขาเป็นคนไม่ดีความกลัวนี้ทำอย่างไรถึงจะหาย บางครั้งเราพูดปากเปียกปากแฉะหายไหม (ไม่หาย) บางครั้งเราชี้นำสั่งสอนในทางที่ดี หายไหม (ไม่หาย)แต่จงทำอย่างไรเรียกร้องตัวเอง ทำตัวเองให้ถูกต้อง แล้วทำให้บ้านเป็นบ้านที่ร่มเย็นเป็นสุข ไม่ว่าลูกจะทุกข์ขนาดไหน ลูกก็จะกลับมาปรึกษาเรา ไม่ว่าลูกจะเดือดร้อนหรือจะเป็นสุขขนาดไหน ลูกก็จะกลับมาหาพ่อแม่ เพราะพ่อแม่คือที่ร่มเย็นและที่พักพิง ฉะนั้น จงทำตัวเองให้งดงาม ดีงาม บางครั้งไม่ต้องพูดอะไรเลย ลูกก็จะเลียนแบบพ่อแม่
(ทุกข์เพราะไม่ค่อยเข้าใจธรรม) ธรรมะแท้อยู่ที่ตัวเราอยู่ที่เราจะรู้จักทำสิ่งใด แล้วทำอย่างไรจึงจะทำให้มีธรรมออกจากตัวเราได้ เช่น เวลาพูดเรามีความชื่อสัตย์ไหม มีความจริงใจเวลาปฏิบัติกับเขาไหม เวลาคิดเราอยากได้ของเขาไหม ถ้าคิดว่าจะเอาของคนอื่นแล้วไปปฏิบัติด้วยเรียกว่า อธรรม

Leave a Reply