7 มิถุนายน 2011 บำเพ็ญหลุดพ้น

ศาสตร์แห่งการ”บำเพ็ญหลุดพ้น”

เวทมนต์คาถา เสี่ยงทายดวงชะตา ฤทธาปาฏิหาริย์ อภิญญาสมาธิ
ยากที่จะหลุดพ้น

โอวาทพระพุทธบรรพจารย์...เจียงไท่กง

อย่าโลภในความดี อย่ายินดีในความชั่ว
พึงกระหายในความดี พึงปิดกั้นสิ่งเลวร้าย
เป็นสุขเมื่อทำดี หลักธรรมนี้คุณมากมาย
เมตตาเพิ่มอายุขัย คนโหดร้ายย่อมอับปาง

ในวันนี้เมธีได้อธิบายเรื่อง “เวทมนต์คาถา ทำนายทายชะตา ฤทธาปาฏิหาริย์ อภิญญาสมาธิ”…
เราเป็นชาวแคว้นฉู่ วันนี้ได้รับพระโองการจากองค์ธรรมมารดามาถึงสถานแห่งนี้เพื่อประกาศสัจธรรมผูกบุญสัมพันธ์…
เมธีทั้งหลายโปรดดูบนกระดาน…

“อย่าโลภในความดี”
หมายความว่าอย่างไร ?… ความดีนั้นคือสิ่งดีงาม ทุกคนย่อมจะมีความโลภ ต่างก็มีจิตที่ใฝ่ดี ล้วนหวังที่จะได้ดียิ่งๆ ขึ้นไปทั้งนั้น แต่ก็มิสู้สายน้ำน้อยๆ ที่ไหลรินอย่างสม่ำเสมอ (ทำดีต้องเสมอต้นเสมอปลาย) ดังนั้น ผู้ใฝ่ความดีนั้นจึงไม่ควร มีจิตละโมบ…

คำว่า “อย่ายินดีในความชั่ว” นั้น
ก็เหมือนกับโจรที่ใช้เล่ห์กลอุบายเพื่อหลอก ลวง จงอย่าได้ยินดีหลงกับมันนัก หากพบเห็นคนทุกข์ยากก็ควรเอาใจเขาใส่ใจเรา เช่นนี้เข้า ใจไหม ?…

“พึงกระหายในความดี” หมายความว่าอะไร ?
ใช่หรือไม่ว่าจะต้องใฝ่หาความรู้ความสามารถ เห็นแบบอย่างที่ดีแล้วต้องเรียนรู้ปฏิบัติตาม เห็นผู้ทรงคุณงามความดีถึงพร้อมจะต้องย้อนรำลึกอยู่เสมอ…

“พึงปิดกั้นสิ่งเลวร้าย” ล่ะ?
ใช่หรือไม่ว่าเมื่อได้ยินคำครหานินทา หรือได้ยินในสิ่งที่มิเป็นสัจธรรมแล้วควรจะปิดกั้นไม่รับรู้รับฟัง อย่าทำให้อายตนะถูกรบกวนให้หวั่น ไหวจนกระเทือนไปถึงจิตพุทธะ ใช่หรือไม่ ?…
ที่พูดมานี้ เมธีฟังเข้าใจไหม ?…

“เป็นสุขเมื่อทำดี” หมายความว่าอย่างไร ?..
หมายความว่าในขณะที่เราช่วย เหลือผู้อื่นนั้น จิตเกิดความอิ่มเอมเปรมปรีดิ์และปิติสุข…

“หลักธรรมนี้คุณมากมาย”
ฟ้าดินเป็นสิ่งล้ำเลิศ หลักธรรมคือมรรคา มรรคาถือเป็นหนทางที่ทุกคนจะต้องเดินผ่าน ฟ้าดินมีธรรมหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง ฟ้าดินมีธรรมเธอทั้งหลายจึงดำรงอยู่ได้…
ธัญพืชทั้งห้าพร้อมมูล ฤดูกาลทั้งสี่ไม่ผิดเพี้ยน ใช่หรือไม่ ? ฟ้าดินมีธรรม ดังนั้น เธอทั้งหลายจึงไม่ต้องประสบภัยพิบัติ แผ่นดินไหวภัยทั้ง 3 ทุกข์ทั้ง 8 เป็นต้น…
ในขณะที่จิตใจคนตกต่ำคุณธรรมเสื่อมถอยนั้น ฟ้าเบื้องบนจะบังเกิดเหตุเภทภัยให้ปรากฏ เวลานั้นเธอก็ยากจะหลีกหนี ฉะนั้น การเผยแผ่มหาธรรมนี้จึงถือเป็นภารกิจที่เร่งด่วน…

อันว่า “เมตตาเพิ่มอายุขัย”
ผู้ที่มีจิตเมตตาจะไม่เบียดเบียนและไม่ฆ่าสัตว์ ไม่สร้างกรรมชั่ว หมั่นทำความดี รักและถนอมทุกชีวิต สร้างกรรมดีได้รับผลที่ดี ผู้มีเมตตาจิตใจรักและเคารพต่อทุกสรรพสิ่ง ฟ้าเบื้องบนย่อมจะประทานผลตอบสนองให้กับเธอ ทุกสรรพสิ่งทุกชีวิตอยู่ร่วมกัน เขาหิวเราหิว เขาอิ่มเราอิ่ม ทุกคนต่างดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัันเสมือนหนึ่งพี่น้องร่วมอุทร…

“คนโหดร้ายย่อมอับปาง”
คนชั่ว เสมือนดั่งพระเจ้าเจียโจวหวังที่ได้สร้างกรรมทำลายประเทศชาติ กล้าในทางผิด ฆ่าคนเหมือนผักปลา ผลสุดท้ายเป็นเช่นไร ก็เป็นแค่ร่างอยู่ในหลุมที่มีดินฝังกลบหน้า อีกทั้งผลกรรมที่ได้สร้างไว้จะติดตามดั่งเงา สามชาติก็ชดใช้ไม่หมด ไม่รู้อีกเมื่อไรจะหมดเวรหมดกรรม เมธีทั้งหลายเข้าใจไหม ?…

เรานั้นชอบนักที่จะใช้คำกล่าวเช่นนี้มาปลุกเตือนชาวโลกให้รู้ตื่น เพราะการได้รับมหาธรรมนี้ถึงแม้มีโองการสวรรค์แต่ก็ใช่ว่าจะสำเร็จเป็นพุทธะเทพเซียนกันได้ในบัดดล อีกทั้งชาวโลกยังบำเพ็ญขัดเกลาเยี่ยงคนตาบอด ที่หมกมุ่นอยู่กับเวทมนต์คาถา ทำนายดวงชะตา ฤทธาปาฏิหาริย์ อภิญญาสมาธิเหล่านี้…


ขงจื่อกล่าวว่า…
“มนุษย์มีอยู่ 5 ประเภทด้วยกัน คือ อริยบุคคล ปราชญ์เมธี สุภาพชน วีรบุรุษและปุถุชน แล้วเธอทั้งหลายจัดอยู่ในประเภทไหนดี ?…

พวกเธออยากเป็นอริยบุคคลหรือไม่มรรคผลของอริยบุคคลและปราชญ์เมธีนั้น มีน้อยคนนักที่จะบรรลุถึง ถ้าจะกล่าวถึงปราชญ์เมธีแล้ว พวกเธอจัดว่าถึงพร้อมบารมีของปราชญ์เมธีหรือยัง เมธีทั้งหลายมิต้องเกรงใจ อดีตชาติได้สั่งสมบุญบารมีไว้ วันนี้ถึงได้นั่งอยู่ในนาวาธรรมลำนี้…

เธอเคยคิดบ้างไหมว่าในโลกนี้ยังมีผู้คนอีกมากมายเท่่าไหร่ที่ยังหลงระเริงอยู่ในโลกแห่งแสงสี และอีกสักเท่าไหร่ที่ยังหมกมุ่นอยู่ในอบายมุขทั้งปวง…
วันนี้เมธีทั้งหลายที่นั่งฟังธรรมอยู่ ณ ที่นี้ ใช่หรือไม่ว่าเป็นรากบุญของเราเอง ที่พูดมาเพื่อเป็นการให้กำลังใจตัวเรา…

การบำเพ็ญธรรมมิใช่แต่เพียงได้รับธรรมเท่านั้น ความจริงแล้วก็ไม่มีธรรมใดๆ ที่จะได้รับเลย เป็นเพียงการบ่งบอกให้เธอทั้งหลายได้รับรู้ว่า โฉมหน้าเดิมของตัวเรานั้นอยู่ไหน เรามาจากไหน เมื่อจากโลกนี้แล้วจะไปไหน ?…

ในขณะที่เธอเข้ามาในห้องๆ หนึ่ง ก้าว เข้ามาทางประตู ถือเป็นแขกหรือเจ้าบ้าน แต่ถ้าหากปีนเข้ามาทางหน้าต่างล่ะ เช่นนั้นเธอก็เป็นโจร ใช่หรือไม่ ?…

โจรทั้ง 6 คืออายตนะ 6 ทั้งภายในและภายนอกยังไม่บริสุทธิ์ ถ้าวันนี้ออกไปไม่ออกทางประตูแล้ว ใครจะสามารถกลับคืนมาตุภูมิได้…

ถ้าไม่เข้า-ออกทางประตูที่ถูกต้องก็ย่อมถูกตราหน้าว่าเป็นหัวขโมย ต้องตกเข้าสู่อบายภูมิหกของทะเลทุกข์ ใช่หรือไม่ ?…

คิดดี-ทำดีก็พอแล้ว คนส่วนใหญ่มักกล่าวเช่นนี้ แต่ว่าการคิดดี-ทำดีนั้น มาตรฐานของมันอยู่ตรงไหน ?…

เช่นนี้แล้วชั่วชีวิตก็จะต้องเวียนว่ายอยู่ในทะเลทุกข์เป็นแน่แท้ !…

เมธีทั้งหลายเคยเข้าวัด ฝึกฝนเรียนรู้ปฏิบัติธรรมและกราบไหว้พระพุทธะ ในยุคเขียวคาถาที่ท่องคืออะไร ?… “อู๋เลี่ยงโซ่วฝอ”
คิดว่าเมธีทั้งหลายคงเคยได้ยินคำว่าใบบัวเขียว ดอกบัวแดง และรากบัวขาว ในขณะนี้มือของเรากำลังอุ้มอะไรอยู่ ? นี่เป็นลัญจกรของยุคแดงใช่หรือไม่ ? ก็เหมือนกับเมธีที่เดินเข้าเดินออก ถ้าไม่มีลูกกุญแจแล้วจะเข้ามาได้อย่างไร…

ถ้าเธอคิดจะหลุดพ้นจากโลกีย์แห่งนี้ไปสู่โลกุตตรภูมิแล้ว เพียงคิดดี-ทำดีแต่ว่าไม่ได้นำลูกกุญแจติดไปด้วย แล้วจะกลับแดนนิพพานได้อย่างไร ?…

ต่อให้ห้องๆ นั้นเป็นของเธอ แต่เธอไม่มีลูกกุญแจ เฉพาะผู้ที่มีลูกกุญแจเท่านั้นจึงจะถือว่าเป็นเจ้าของห้องได้ ต่อให้เธอแบกมันอยู่บนหลังของเธอก็ตาม เธอก็ยังจะต้องผ่านประตูนี้เข้าไป อย่างนี้ฟังเข้าใจไหม ?…

อีกทั้งแก่นแท้แห่งธรรมนั้น เวลาแผ่ขยายออกจากจุดนั้นสามารถครอบคลุมทุกสารทิศ เวลาเก็บกลับมาแฝงเร้นอย่างลึกลับจนมิดชิดไม่มีช่องโหว่ เริ่มจากคุณลักษณะแห่งมี (有) กับ ไม่มี (無) ได้ก่อกำเนิดสรรพสิ่ง ทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ทุกอย่างเธอจะต้องปล่อยวางมันให้ได้ อย่าคิดว่าเป็นเพียงห้องๆ เดียว ทุบหน้าต่างออกก็ปีนออกได้แล้ว…

มหาธรรมนั้นไร้รูปลักษณ์ หากเข้าทางประตูนี้ไม่ได้ก็จะต้องวนอยู่รอบนอกตลอดไป
สำหรับผู้รับธรรมะ ได้รับการถ่ายทอดหนึ่งจุด นั้นก็คือผู้ที่ได้รับลูกกุญแจแล้วนั่นเอง พระองค์ธรรมมารดาทรงห่วงใยพุทธบุตรยิ่งนัก รับสั่งให้องค์ศาสดาทั้งห้าจุติลงมาจรรโลงหลักธรรม ทรงตรากตรำเหนื่อยยากหว่านเมล็ดพันธุ์ปูทางไว้ ก่อตั้งศาสนาทั้งห้า กล่อมเกลาจิตใจมวลมนุษย์ให้รู้จักการดำเนินชีวิต
เมธียังจำได้หรือไม่ ?…

เชื่อว่าจุดประสงค์หลักของศาสนาทั้ง ห้าทุกคนคงจำกันได้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน หรือดินแดนตะวันตก ศาสนาทั้งห้าได้ประกาศเผยแพร่หลักสัจธรรมออกไปทั่ว มีศิษย์สาวกมากมายจนนับไม่ถ้วน เมธีเดินไปทางไหนมองเห็นคนกราบไหว้พระหรือไม่ บ้างก็บูชาพระโพธิสัตว์กวนอิม บ้างก็กราบไหว้เจ้าแม่ทับทิม บ้างก็ศรัทธาเจ้าพ่อกวนอู บ้างไหว้เจ้าที่ เทวา ดารานักษัตร เจ้าป่า เจ้าเขา พระแม่คงคา ฯลฯ มีใครบ้างที่ไม่กราบไหว้เพื่อหวังให้ท่านเหล่านั้นปกป้องคุ้มครองชีวิตเราให้พ้นเหตุเภทภัย…
ในวันนี้เมธีทั้งหลายเดินเข้ามาในพุทธสถานแห่งนี้ก็เพื่อศึกษาเรียนรู้เรื่องของ หลักวิถีแห่งจิต อีกทั้งยังขออธิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ช่วยปกป้องคุ้มครองทุกคนในครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข แต่ขอถามหน่อยเถิดว่าหากซื้อของแล้วไม่จ่ายสตังค์ จะเอาของไปได้ไหม ?…

เธอไม่สร้างบุญสร้างกุศล สิ่งศักดิ์สิทธิ์สามารถช่วยเธอได้ไหม ?…

อย่าได้ลังเลอยู่นอกประตูผีต่อไปอีกเลย แม้ว่าเธอจะรับธรรมแล้ว ขึ้นชื่อบนทะเบียนฟ้า คัดชื่อออกจากบัญชียมโลกแล้วก็ตาม ต่อให้เธอสามารถนั่งทางในถอดจิตระลึกชาติได้ แต่มลทินในตัวเธอ อีกทั้งเวรกรรมในอดีตยังไม่ได้ชำระสะสาง เช่นนี้แล้วจะทำอย่างไรดี ?…

หากเธอเคยยืมเงินเขาเป็นหนี้เขา เมื่อถึงเวลา เธอต้องชดใช้คืนหรือไม่ ? แต่นี่เธอยังไม่ใช้คืนกลับทวงจากเขาอีก แล้วนับอะไรกับหกหมื่นปีที่เวียนว่ายตายเกิด แม้หญ้าเพียงต้น ไม้เพียงท่อน ข้าวเพียงเม็ด ยังจะต้องคำนวณกันอย่างละเอีอดถี่ยิบ อย่างนี้เข้าใจไหม ?…

“แรงปณิธานดั่งนาวา แรงกรรมดุจกาลเวลา” นาวาสามารถบรรทุกก้อนหินได้ไหม ? ได้…. ขอเพียงอย่าให้น้ำหนักเกิน วันนี้เธอรับธรรมแล้วได้ตั้งมหาปณิธาน 10 ข้อ สมมุติว่าเรือลำนี้สามารถบรรทุกได้หนึ่งตัน เธอได้นำก้อนหินหนึ่งตันบรรทุกไว้ น้ำหนักจะพอดีใช่หรือไม่ ? ถ้าหากน้ำหนักเกิน เรือก็จมใช่หรือไม่ ?…

ดังนั้น เมธีทั้งหลายจะต้องระมัดระวัง วิบากกรรมในวันนี้อาจกลบด้วยแรงปณิธาน เมื่อเธอตั้งปณิธานแล้วต้องบรรลุปณิธานด้วย !
ทำอย่างไรจึงสามารถตัดกรรมและไม่เกี่ยวกรรมกับเวไนย์ทั้งหลาย ?… จะต้องปลด ปล่อยชีวิตสัตว์ด้วยการทานเจ อย่างนี้ฟังเข้าใจไหม ?…

ทุกคนย่อมมีครอบครัวลูกเมียอันเป็นที่รัก ส่วนพวกหมูหมากาไก่ก็มีญาติมิตรของเขาเช่นเดียวกัน ล้วนมีพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเหมือนกัน ถ้าหากเธอไปทำลายครอบครัวของคนอื่นเขา ทำให้ชีวิตเขาอยู่ไม่เป็นสุข ชำแหละแยกเนื้อหั่นกระดูกเขา ว่าตามกฎแห่งกรรมแล้วก็จะต้องรับผลของกรรมเช่นเดียวกันกับที่ทำไว้
ก็เหมือนกับเธอได้เปิดบัญชีซื้อเชื่อกับร้านค้า วันหนึ่งเซ็นไว้ 10 บาท ร้อยวันเป็นเงินเท่าไร ?… 1,000 บาท…

เมื่อถึงวันเจ้าหนี้ก็จะต้องมาทวงกับเธอใช่หรือไม่ ? จากทีละเล็กทีละน้อยจนมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนหยดน้ำยังสามารถกัดกร่อนแท่นหินให้สึกได้เลย…

เมธีทั้งหลายจะต้องถนอมวาระบุญอยู่ทุกขณะ ชีวิตมนุษย์ก็คือทะเลทุกข์ ร่างกายที่ให้เราใช้ได้เพียงไม่กี่ปี อย่าคิดว่ายังมีพรุ่งนี้ ความหวังเธออยู่ในวันพรุ่งนี้ แต่ว่าในมือของเธอวันนี้ยังว่างเปล่า เธอควรที่จะถนอมเวลาทุกขณะ ใช้ชีวิตด้วยเหตุและผล หนทางที่จะดำเนินต่อไปต้องกระจ่างชัด แล้วได้ลงมือปฏิบัติหรือยัง ?…

เจียงไท่กง

สมัยที่เราตกปลาอยู่ริมน้ำ เบ็ดตกปลาที่เราใช้นั้นเป็นเส้นตรง เรามิได้มีเจตนาที่จะตกปลา แต่เราต้องการตกเจ้านครรัฐ เราต้องการจะตกพระเจ้าเหวินหวัง เพราะเหตุใดเล่า ? ก็เพราะว่าบัญชาสวรรค์ประสงค์ให้เป็นเช่นนั้น สายทองต้องสืบทอด หากว่าพระเจ้าเหวินหวังขาดจริยธรรมต่อชนเบื้องล่าง เป็นบุคคลที่ขาดคุณธรรมแล้ว พระองค์จะทรงสำเร็จพระกรณียกิจที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร หากปราศจากพระทัยที่กว้างขวางแล้ว พระองค์จะทรงเป็นประมุขของแผ่นดินได้อย่างไร ใช่หรือไม่ ?…

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ :

  • การปรากฏของเอกอัครมหาบุรุษของโลก (1) ความปรารถนาของพระพุทธเจ้าจะปรากฏง่าย ๆ เหมือนสามัญชนก็หาไม่ แท้ที่จริงแล้วความปรากฏของพระพุทธเจ้าเป็นการยาก ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า "ดูก่อนภิกษุทั้ ...

  • ของขวัญจากมนุษยชาติ สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติกำลังถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์ ยามชายฝั่งสหรัฐเปิดเผยว่าพบการรั่วไหลของน้ำมันอย่างรุนแรงจากแท่นขุดเจาะนอกอ่าวเม็กซิโก ที่จมลงทะเลหลังถูกไฟไหม้เมื่อหลายว ...

  • การปรากฏของเอกอัครมหาบุรุษของโลก (2) อาตมา เดิมเป็นโอรสกษัตริย์อินเดีย แสวงหาลาภยศศรีสุข ไม่รู้ฟ้าสูงดินต่ำ วันหนึ่งเที่ยวสี่ประตูเมือง รู้ชัดแห่งชีวิตการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทำให้อาตมารู้ตื่น ถ ...

  • ฟ้าดินให้ความสำคัญกับ "ความกตัญญู" เป็นอันดับแรก ความกตัญญูเพียงหนึ่งคำ ทำให้ทั้งครอบครัวมีความร่มเย็นเป็นสุข ผู้ที่มีความกตัญญูจะสามารถให้กำเนิดบุตรที่มีความกตัญญู บุตรหลานที่กตัญญูย่อมมีสต ...

  • กบผู้ไม่ยอมแพ้ ………………………………………………………………………………….. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว… มีกบหลายตัว…ตกลงไปในบ่อลึก…ที่ชาวบ้านขุดไว้ดักสัตว์ . พวกมันพากันกระโดด… เพื่อพยายามขึ้นมาจากบ่อนั้นให้ได้ แต่ส ...

1,933 views

Leave a Reply