24 ธันวาคม 2010 กษิติครรภ์โพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร

กษิติครรภ์โพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร

พระสูตรว่าด้วยปณิธานเมื่อครั้งอดีตของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์
แปลโดย พระวิศวภัทร เซี่ยเกี๊ยก

กษิติ แปลว่า แผ่นดิน
ครรภ์ แปลว่า ที่เก็บรักษา

พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์จึงมีความหมายคือ
พระโพธิสัตว์ที่ประทับอยู่ใต้ผืนดิน
แต่ดั้งเดิมพระกษิติครรภ์
ก็ทรงอาภรเป็นอย่างมหาบุรุษ
วรกายประดับด้วยเครื่องประดับอลังการต่างๆ
อุปมาท่าน อลังการด้วยบารมีทุกประการ
และเป็นธรรมราชกุมาร
คือบุตรของธรรมราชา
จึงแต่งกายอย่างวิจิตรอลังการ

ในพระสูตรกล่าวว่า
ทุกเช้าพระกษิติครรภ์จะเข้าสมาธิต่างๆ
จำนวนเท่ากับเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา
เพื่อพิจารณาสอดส่องหมู่สัตว์ทั้งหลาย
ที่ควรได้รับการโปรด
ท่านได้รับการยกย่องว่า
เป็นพระโพธิสัตว์ที่ยิ่งด้วยพระมหากรุณา
ในระหว่างพุทธสมัยหนึ่งไปถึงอีกพุทธสมัยหนึ่ง
เป็นสมัยที่ไม่มีพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก

ท่านก็ฉุดช่วยสัตว์ทั้งหกภูมิอยู่ไม่ได้หยุดพักเลย

หรือแม้แต่สมัยของพระศากยมุนีพุทธเจ้า
ไปจนถึงสมัยของพระเมตไตรยพุทธเจ้านี้ด้วย
มีคำกล่าวว่า ท่านมีความอดทนถือขันติมาก ดั่งพื้นปฐพี
มีความสงบ และลุ่มลึก ดั่งคลังลึกลับ
เหตุนี้จึงได้นามว่า กษิติครรภ์
ตามบันทึกของจีนชื่อ
ไป่จ้างเย่หลินชิงกุยเจิ้งอี้จี้ ฉบับที่สาม
กล่าวว่าเจ้าชายแห่งประเทศเกาหลี
พระนามว่า เฉียว-จีเว๋ ในตระกูลจิน
ได้เสด็จมาศึกษาต่อที่เมืองถัง
และเกิดความเลื่อมใสในพุทธศาสนามาก
จึงทรงกลับไปผนวกที่ประเทศเกาหลี
ขณะนั้นมีพระชนมายุ 24 พรรษา
คือปีรัชสมัยย่งเว่ยที่สี่ ตรงกับพุทธศักราชที่ 1196
แล้วได้จารึกข้ามทะเลมาถึงมลฑลเจียงหนาน
ที่ภูเขาจิ่วหัว หรือภูเขาเก้ายอด อำเภอชิงหยาง
เมืองฉือโจว ประเทศจีน
คือมณฑลอานฮุยในปัจจุบัน
พร้อมกับสุนัขสีขาวตัวหนึ่ง ชื่อ ซ่านทิง
ได้นั่งบำเพ็ญธรรมอยู่บนเขาแห่งนี้
รวมเจ็ดสิบห้าปี
ท่านได้นั่งสมาธิจนดับขันธ์
ในคืนวันที่ 30 เดือน 7 ตามจันทรคติจีน
นับรวมพระสิริมายุได้ 99 พรรษา
ตรงกับปีรัชสมัย ไคยหยวน ที่สิบหก
ซึ่งตรงกับพุทธศักราชที่ 1271
หลังจากที่ท่านดับขันธ์แล้ว
บริเวณสถานที่ฝังสรีระของท่าน
ได้มีเปลวเพลิงพวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน
ผ่านไป 3 ปี
จึงได้เปิดโกฏิบรรจุสรีระออก
ได้พบว่าร่างกายไม่เน่าเปื่อยเหมือนยังมีชีวิต
จึงเชื่อกันว่า เป็นพระกษิติครรภ์นิรมานกายมาโปรดสัตว์โลก
ระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น
ยังมีคหบดีหนึ่งชื่อ หมิ่งกง
เป็นอุบาสกผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
ท่านถวายภัตตาหารแด่ภิกษุ
คราวระ 100 รูปทุกครั้ง
คหบดีผู้นั้น ปวารณาจะถวายที่ดิน
แก่หมู่สงฆ์ตามต้องการ
จึงได้ขอถวายที่ดินให้ประธานสงฆ์
คือพระกษิติครรภ์
ประธานสงฆ์กล่าวว่า
ต้องการพื้นดินเท่าจีวรผืนเดียว
แต่พอขึงจีวรออก
กลับปกคลุมไปทั่วภูเขาทั้งเก้ายอด
บุตรของคหบดีเลื่อมใสมาก
จึงขอออกบวช มีธรรมฉายาว่า ภิกษุเต้าหมิง
ต่อมา คหบดี ก็ได้หลีกเร้นตนเองออกจากสังคม
และคารวะบุตรของตัวเองเป็นอาจารย์
จวบจนบัดนี้ ที่ข้างปฏิมากร ของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์
จะมีภิกษุเต้าหมิงอยู่ด้านซ้าย
และมีคหบดีหมิ่นกงอยู่ด้านขวา เป็นอัครสาวก
ด้วยเหตุผลนี้ สาธุชนจึงมีความศรัทธาว่า
พระภิกษุอดีตเจ้าชายแห่งประเทศเกาหลีองค์นั้น
คือพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์
ที่นิรมานกายมาโปรดสัตว์
เป็นเหตุให้ในปัจจุบัน สร้างรูปเคารพ และภาพวาด
พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์เป็นพระภิกษุมหายาน
ในอรรถกถากล่าวว่า
เหตุที่พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์
ได้ปรากฏกายเป็นภิกษุนั้น
เพราะในอนาคตกาล
เมื่อโลกถึงแก่ความเสื่อมทุกประการ
พุทธศาสนาจะสิ้นไปจากโลก
พระกษิติครรภ์ก็จะปรากฏกายของภิกษุ
เพื่อให้สัตว์โลกได้เห็นพระสงฆ์และได้ฟังธรรม
หนึ่งในพระสูตรของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์
ในคัมภีร์ฝ่ายมหายาน คือ
กษิติครรภ์โพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร
มีสองเล่ม รวมสิบสามตอน
แปลจากภาษาสันสกฤตสู่ภาษาจีน
โดยพระศึกษานันทะ
ในสมัยราชวงศ์ถัง ของประเทศจีน
พระศึกษานันทะนี้ เป็นชาวเมืองโขตาน
หรือเตอรกีสถานในปัจจุบัน
ผลงานแปลพระสูตรที่สำคัญของท่านมีมากมาย
สำหรับกษิติครรภ์โพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร
หรือ พระสูตรที่ว่าด้วยปณิธานความตั้งใจ
เมื่อครั้งอดีตของพระกษิติครรภ์นี้
ถือเป็นคัมภีร์สำคัญเล่มหนึ่งของนิกายมหายาน
พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ เป็นที่เคารพนับถือของสาธุชนมาก
เนื่องจากท่านมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ว่า
หากในนรกยังไม่ว่างจากสัตว์ที่ต้องรับทุกข์ทรมาน
เราก็จะไม่ขอสำเร็จพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
เหตุนี้ สาธุชนจึงถวายพระนามว่า
มหาปณิธานโพธิสัตว์
ไม่ว่าพระพุทธเจ้าจะมาตรัสรู้กี่พระองค์
นับได้มากกว่าเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา
ก็จะมาตรัสสรรเสริญ
พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ถึงความเมตตากรุณา
ปณิธาน ความเพียร และความอดทน
ของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ทุกพระองค์
เพราะเป็นเวลาแสนนาน ที่พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์
ได้ตั้งปณิธานจะโปรดสัตว์ในนรกภูมิให้หมดสิ้น
แต่มาถึงบัดนี้ เมืองนรกกลับมีแต่
เพิ่มจำนวนประชากรมากขึ้นทุกวัน
เป็นเพราะสัตว์โลกสร้างกรรมชั่วมากขึ้น
เมื่อสิ้นชีวิตแล้วได้ขึ้นสวรรค์
หรือไปเกิดเป็นมนุษย์อีก มีจำนวนน้อยมาก
แต่ผู้ที่ไปเกิดเป็น สัตว์นรก เปรต เดรัจฉาน
มีเป็นจำนวนมากกว่า
ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ปณิธานอันยิ่งใหญ่นี้
ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ :

  • การปรากฏของเอกอัครมหาบุรุษของโลก (1) ความปรารถนาของพระพุทธเจ้าจะปรากฏง่าย ๆ เหมือนสามัญชนก็หาไม่ แท้ที่จริงแล้วความปรากฏของพระพุทธเจ้าเป็นการยาก ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า "ดูก่อนภิกษุทั้ ...

  • ชื่อโครงการ ค่ายพุทธบุตร เพื่อส่งสริมคุณธรรมและปลูกฝังจริยธรมให้กับเยาวชน ซึ่งปัจจุบันเยาวชนสมัยใหม่ห่างไกลธรรมะ ซึ่งเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชีวิต จัดโดยมูลนิธิเมตตาอาทร ติดต่อ 085-0658236 ด ...

  • ของขวัญจากมนุษยชาติ สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติกำลังถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์ ยามชายฝั่งสหรัฐเปิดเผยว่าพบการรั่วไหลของน้ำมันอย่างรุนแรงจากแท่นขุดเจาะนอกอ่าวเม็กซิโก ที่จมลงทะเลหลังถูกไฟไหม้เมื่อหลายว ...

  • ฟ้าดินให้ความสำคัญกับ "ความกตัญญู" เป็นอันดับแรก ความกตัญญูเพียงหนึ่งคำ ทำให้ทั้งครอบครัวมีความร่มเย็นเป็นสุข ผู้ที่มีความกตัญญูจะสามารถให้กำเนิดบุตรที่มีความกตัญญู บุตรหลานที่กตัญญูย่อมมีสต ...

  • ชีวิต : LIFE ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชน เพื่อให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโท เขาเตรียมการสอนอยู่หลายวันจึงตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึก ...

Tags:
1,320 views

Leave a Reply