28 กรกฎาคม 2010 thumb 9. แปรความยึดติดในอัตตาด้วยการหมั่นสร้างกุศล

พระพุทธจี้กง :

ไม่ว่าเรื่องราวใด ๆ ก็ตาม ต้องดูว่าพวกเจ้าใช้จิตใจเช่นไรไปจัดการกับมัน ก่อนที่เจ้าจะตักเตือน ผู้อื่น ก็ต้องคิดถึงหัวอกเขาก่อน เรื่องราวแบบนี้เขาจัดการเช่นนี้ เขาย่อมจะมีเหตุผลส่วนตัว พวกเจ้าต้องคิดถึง จิตใจของเขาก่อน จากนั้นจึงค่อยไปตักเตือนเขา ไปแนะนำ วิเคราะห์ จึงจะไม่ทำให้เขาเสียหน้าเสียเกียรติ เข้าใจไหม ? มิใช่ว่ามาถึงก็ใช้ทัศนคติของตนเองไปวิเคราะห์ผู้อื่น เพราะจะเป็นการทำลายศักดิ์ศรีของเขาโดย ไม่รู้ตัว ดังนั้น จิตใจของพวกเจ้าต้องแข็งแรงสมบูรณ์ หากใช้จิตใจที่ไม่แข็งแรงสมบูรณ์นี้ไปจัดการเรื่องราว ต่าง ๆ ก็จะยิ่งทำให้เรื่องราวใหญ่โตบานปลายออกไปอีก

จิตใจของเวไนย์ก็เป็นเช่นนี้ มีการแบ่งแยก เลือกทำดีต่อผู้อื่นเป็นรายบุคคลไป ยุให้รำตำให้รั่ว ดังนั้น จึงมักจะใช้คำพูดทำร้ายผู้อื่นอยู่เสมอ ศิษย์เอ๋ย ในเมื่อจะบำเพ็ญธรรม ก็ต้องปรับจิตใจที่คอยยุยงส่งเสริมนี้ ให้เที่ยงตรงเสียก่อน หากพวกเจ้าทุกคนหมั่นทำความดีอยู่ทุก ๆ ขณะ ก็เปรียบเหมือนกับการใส่ข้อมูลที่ดี ๆ เข้าไปในคอมพิวเตอร์ เมื่อจิตเป็นกุศลหน้าตาก็งดงาม พวกเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องไปทำนายดวงชะตากัน ใช่หรือ ไม่ ? การทำนายดวงชะตานั้นจะไม่เกิดผลแม่นยำกับผู้ที่บำเพ็ญปฏิบัติจริง เพราะว่าชะตาชีวิตสามารถเปลี่ยน แปลงได้ ดังนั้นพวกเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอดูให้มาทำนายทายทักชีวิตของพวกเจ้า เพียงแค่ถามใจตน เองว่าได้เปลี่ยนแปลงหรือยัง ? ถามตัวเจ้าเองว่านิสัยเลวร้ายต่าง ๆ ได้แก้ไขหรือยัง ? ถามตัวเจ้าเองว่า นิสัยย่ำแย่ต่างๆ ขจัดออกไปหมดหรือยัง ? ไม่ว่าจะทำอะไรให้ถามใจของตนเองก็พอแล้ว ไม่ต้องไปถามคน อื่น การถามผู้อื่นจะทำให้เกิดความยึดมั่นถือมั่นได้ง่าย ดังนั้น ขอเพียงพวกเจ้าบำเพ็ญด้วยความจริงใจ สร้าง กุศลอย่างแท้จริง อาจารย์เชื่อว่าทุกคนจะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตนเองได้ ศิษย์ทั้งหลายอย่าให้ เครื่องพันธนาการมาผูกมัดตนเองเลย

ปัจจุบันนี้การทำนายทายทักมีความแม่นยำมาก ทั้งนี้เป็นเพราะอวิชชาของเวไนย์ นั่นก็เป็นเพราะ พวกเจ้าไม่สามารถรักษากุศลจิตของตนเองเอาไว้ได้ ไม่สามารถปรับจิตใจตนเองให้สมดุลย์ ดังนั้นจึงรู้สึกว่า ตนเองหลงใหลเลอะเลือน นั่นก็แสดงว่ายังคงต้องเวียนวนอยู่ในคติหกไม่จบสิ้น

ดังนั้น อาจารย์หวังว่าพวกเจ้าทั้งหลายจะสามารถขจัดอวิชชาในใจของตนให้หมดไปได้ คำยกย่อง ชมเชยนั้นเป็นปัจจัยภายนอก มันเกิดขึ้นชั่วระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น หลอกให้พวกเจ้าดีใจเล่น ๆ ในขณะเดียว กัน ความรู้ก็คงอยู่ในระยะเวลาสั้น ๆ เช่นกัน มันแค่หลอกให้พวกเจ้าหลงตัวเองเท่านั้น แม้แต่ผลไม้นี้ยังสามารถ หลอกให้เจ้าดีใจเล่น ๆ ได้ และก็ทำให้คนอื่นดีใจได้เช่นกัน ดังนั้นขณะที่ผู้อื่นชมเชยเจ้า เจ้ายิ่งต้องอ่อนน้อม ถ่อมตน อย่าหลงระเริงไปกับคำชมและเสียงสรรเสริญต่าง ๆ เพราะมันจะทำให้เจ้าเป็นเหมือนลิงโลด จากนั้น เวลาทำสิ่งใดก็มักจะยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง ยึดอัตตาตัวตน และเกิดอวิชชาตามมา

มนุษย์เอ๋ย ก็เป็นเช่นนี้แล ไม่สามารถยืนบนที่สูงได้ แต่ก็ไม่สามารถนำพาตนเองให้ลงสู่ที่ต่ำได้เช่นกัน จึงต้องรู้จักที่จะสยบความยโสโอหังของตนเอง ยกระดับธรรมบารมีของตนเอง ไม่ใช่คอยแต่จะไปเปลี่ยนแปลง ผู้อื่น จดจำคำพูดของอาจารย์ให้ดี คนอื่นจะทำอย่างไรก็ตาม เขาย่อมมีเหตุผลของเขา เจ้าต้องลองไปทำความ เข้าใจในสิ่งที่ผู้อื่นทำบ้าง ลองใส่ใจผู้อื่นบ้าง ไม่ใช่คอยแต่จะไปเปลี่ยนแปลงเขา หากเจ้าเปลี่ยนแปลงเขาไม่ ได้ สุดท้ายเจ้าก็จะช้ำใจเอง ดังนั้นเวไนย์จึงเป็นผู้ที่สรรหาความทุกข์มาสู่ตนเองได้มากที่สุด ศิษย์ทั้งหลาย พวกเจ้าว่าจริงหรือไม่ ?

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ :

  • พระพุทธจี้กง : มนุษย์เอ๋ย ตอนอายุยังไม่ถึงสามสิบก็นอนไม่ตื่น หลังอายุสามสิบไปแล้ว ก็นอนไม่หลับ เพราะอะไร ? เพราะว่าเครื่องพันธนาการนี้มันหนักอึ้ง คนเราไม่อยากออกบวช แต่ก็ต้องบำเพ็ญธรรม พอพูดถึง ...

  • พระพุทธจี้กง : หวังว่าเมื่อมีชั้นประชุมธรรมศิษย์ทั้งหลายจะมาเข้าร่วม หากสิ่งที่อาจารย์พูดมาทั้งหมดนี้มีสักประโยค สองประโยคที่สามารถทำให้พวกเจ้าหลุดพ้นได้หล่ะก้อ นับว่าเป็นที่น่ายินดีแล้ว ดังนั้ ...

  • พระพุทธจี้กง : ศิษย์ทั้งหลาย บารมีธรรมของพวกเจ้าในยามที่อยู่กับบ้านเป็นเช่นไร ? อาจารย์เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง พวกเจ้าหลอกอาจารย์ไม่สำเร็จหรอก ดังนั้น มนุษย์นี้ต่างก็เสแสร้งหลอกลวงกัน เวไนย์ทั้งหลา ...

  • พระพุทธจี้กง : ดังนั้น การรวมกันของ ญาณ ใจ กายนี้ ก็คือ “ศูนยตา” ศูนยตานี้เป็นตัวแทนสรรพสิ่ง ส่วนความว่างเปล่านั้นมิใช่ศูนยตาหรอกนะ ! พวกเจ้ามักจะพูดว่า “จิตใจ จิตใจ” ในขณะที่ใจดวงนี้ยังไม่เกิด ...

  • พระพุทธจี้กง : ศิษย์ทั้งหลายพวกเจ้ากราบไหว้พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ทุกวัน พวกเจ้ามีปณิธานยิ่งใหญ่ดั่ง พระองค์หรือไม่ ? ศิษย์เอ๋ยลองคิดดูสิว่า การบำเพ็ญต้องเริ่มลงมือจากตรงไหน ? เริ่มจากความจริงใ ...

577 views

Leave a Reply